รอง โฆษกตำรวจ ย้ำทางตำรวจยังคงเร่งติดตามตัว “นายบอส วรยุทธ” อย่างเต็มที่ แม้คดีหมดอายุความอีก 1 ข้อหา แต่ยังมีข้อหาหนักอีก 1 ข้อหาที่สามารถเอาผิดได้
พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุถึงการติดตามตัว นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ผู้ต้องหาขับรถชนดาบตำรวจ สน.ทองหล่อเสียชีวิต เมื่อปี 2555 ว่า คดีนี้ตำรวจดำเนินการติดตามตัวทุกช่องทาง ซึ่งทางตำรวจกองการต่างประเทศ หรือ ตำรวจสากลไทย ได้ออกหมายจับแดง ไปยัง 190 ประเทศ ให้มีการติดตามตัวนายวรยุทธแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดตอบกลับมา ทั้งนี้ สำหรับข้อหาไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือ ซึ่งจะหมดอายุความในวันพรุ่งนี้ (3ก.ย.60)นั้น ก็ยังคงมีข้อหาหนักที่ยังเหลืออยู่คือ ข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งยังเหลืออายุความอีก 10 ปี ซึ่งกรณีที่มีการพูดถึงในลักษณะว่า เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือ เรื่องนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เน้นย้ำหากมีเบาะแสให้แจ้งมาได้ทันทีไม่ใช่กล่าวหาลอยๆ
นอกจากนี้ พันตำรวจเอก กฤษณะ ยังระบุถึงกรณีที่สำนักข่าวต่างประเทศ อ้างอิงแหล่งข่าวว่า พบเห็นนายวิทยาอยู่พักในโรงแรมที่ประเทศไต้หวัน เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม ก่อนเดินทางออกนอกประเทศไปว่า โดยขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานใดๆ แจ้งมา หากทางสำนักข่าวต่างประเทศมีข้อมูลก็ให้แจ้งกับตำรวจได้ และย้ำตำรวจก็อยากได้ตัวกลับมาดำเนินคดีโดยเร็วเช่นกัน
ด้านเรือโท สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีของนายบอส วรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ผู้ต้องหาขับรถชนดาบตำรวจ สน.ทองหล่อเสียชีวิต เมื่อปี 2555 จะขาดอายุความ ข้อหาไม่หยุดรถให้ความช่วยเหลือผู้ถูกชนตามสมควรและไม่แจ้งต่อเจ้าพนักงานในทันทีที่ชน ในวันนี้ (3 ก.ย.60) ว่า
แม้ข้อหาไม่หยุดรถแสดงตัวเพื่อช่วยเหลือ จะขาดอายุความ ก็ไม่กระทบการดำเนินกระบวนการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งข้อหานั้นมีโทษเบา ส่วนข้อหาขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายที่อัตราโทษหนักยังไม่ขาดอยุความโดยมีอายุความดำเนินคดี 15 ปีนับจากเกิดเหตุจะสิ้นสุดอายุความในปี 2570
ซึ่งตามขั้นตอนการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน อัยการก็แจ้งข้อมูลข้อหาหนักเป็นหลักด้วยอยู่แล้ว ดังนั้นในการดำเนินกระบวนการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน ยังคงทำกันต่อไป ส่วนรายละเอียดและความคืบหน้าการขอส่งผู้ร้ายข้ามดำเนินการถึงขั้นไหน อย่างไรนั้น เป็นภารกิจของสำนักงานอัยการสำนักต่างประเทศที่มีนายอำนาจ
ที่มา ข่าวช่อง 8
สำนักข่าววิหคนิวส์