นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีการยกเลิกหนังสือเดินทาง(พาสปอร์ต)ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เข้าเกณฑ์ในการยกเลิกแล้ว แต่เป็นดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ ขณะเดียวกันตามระเบียบในการขอหรือเพิกถอนพาสปอร์ตได้กำหนดคุณสมบัติบุคคลที่สามารถขอและเพิกถอนไว้ ซึ่งเท่าที่จำได้มี 2 ข้อ คือ 1.กรณีมีหมายจับ และ2.ศาลห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้าเงื่อนไขทั้งสองข้อ ตนจึงสงสัยทำไมรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศไม่ตอบประชาชนอย่างตรงไปตรงมาว่า ตามระเบียบเป็นแบบที่ว่า แต่ใช้ดุลยพินิจว่าจะไม่ถอนก็ต้องอธิบาย การที่ให้ข้อมูลว่าต้องรอคำพิพากษาของศาลก่อนนั้น ทำให้ประชาชนสับสนและความจริงมันไม่ใช่
เมื่อถามว่าต้องรอยืนยันข้อเท็จจริงก่อนหรือไม่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่อยู่ในประเทศไทยแล้ว จึงจะยึดพาสปอร์ตได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน ยกตัวอย่างเช่น ถ้ากำลังจะไปต่างประเทศแล้วมีหมายจับ ศาลห้ามออก หลักคือต้องไม่อำนวยความสะดวกให้ออกต่างประเทศได้ จะบอกว่าให้ไปอยู่ต่างประเทศก่อนแล้วจึงเพิกถอนพาสปอร์ต คือไม่ใช่เรื่อง ถ้ารัฐบาลมีเหตุผลที่ดีที่ยังไม่จำเป็นต้องเพิกถอนก็ขอให้อธิบาย แต่อย่าบอกว่าไม่มีระเบียบ เพราะความจริงระเบียบกำหนดไว้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เท่าที่ดูไม่ค่อยมีความคืบหน้าในการติดตาม และสิ่งที่คิดว่ารัฐบาลจะต้องรับมือต่อไป คือ ถ้าออกนอกประเทศจริงคงจะมีการทำเรื่องขอลี้ภัยทางการเมือง ซึ่งรัฐบาลไทยจะกลายเป็นจำเลยแทน เพราะจะทำให้เกิดความข้องใจในสังคมโลกว่าสรุปรัฐบาลไทยมีปัญหาถึงขนาดที่คนจะต้องขอลี้ภัยหรือไม่ ดังนั้น จึงสงสัยในความจริงจัง ความชัดเจนในการทำหน้าที่ของรัฐบาล
“กรณีนี้ที่ผมเป็นห่วง เฉพาะกรณีคุณยิ่งลักษณ์เราไม่เคยเห็นอะไรที่บ่งบอกว่าถูกคุกคามจากการใช้อำนาจจากฝ่ายบริหาร อย่างมากสุดคือติดตามใกล้ชิดน.ส.ยิ่งลักษณ์เกินไป ไม่มีสิ่งใดบ่งบอกว่ากระบวนการยุติธรรมหรือการร้องเรียนแปลว่าคุณยิ่งลักษณ์จะผิดทุกเรื่อง เพราะเห็นยกฟ้องไปหลายเรื่อง แต่ครั้งนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการทุจริต ศาลฎีกา จะกลายเป็นว่ากระบวนการยุติธรรมไทยเป็นที่ยอมรับหรือไม่” หัวหน้าพรรคปะชาธิปัตย์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่รัฐบาลทำได้คือจริงจังในการติดตามตัว และรัฐบาลต้องเตรียมชี้แจงกับประชาคมโลกว่าคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นคดีทางการเมืองหรือไม่ ซึ่งความจริงโครงการรับจำข้าวถูกตรวจสอบก่อนที่จะรัฐประหารเสียอีก โดยที่ไม่เกี่ยวข้องกับอำนาจในการบริหารแม้แต่น้อย แต่ถ้ารัฐบาลไม่ช่วยชี้แจงจะทำให้เกิดความเสียหายในกระบวนการยุติธรรม
สำนักข่าววิหคนิวส์