“การที่มีข่าวออกมาว่า กฎหมายควบรวมองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นผ่านการพิจารณาแล้วนั้นไม่เป็นเรื่องจริงแต่อย่างใด”
นายสรณะ เทพเนาว์ นายกสมาคมพนักงานเทศบาลแห่งประเทศไทย อดีตอนุกรรมาธิการการปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบทั่วไป และอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ
กฎหมายการควบรวมท้องถิ่น เพิ่งจะผ่านความเห็นชอบของสปท. และคณะอนุกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่นรูปแบบทั่วไป ก็ได้มีการเชิญส่วนที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลและสรุปผลส่งไปให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณา ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างที่กระทรวงมหาดไทยพิจารณา เมื่อพิจารณาแล้วเสร็จก็ต้อง ส่งให้กฤษฎีกา จากนั้นก็ส่งเข้าให้คณะรัฐมนตรี (ครม.)พิจารณา แล้วเสร็จก็ต้องให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พิจารณา ซึ่งต้องใช้เวลาอีกนานพอสมควร ซึ่งหากต้องการใช้กฎหมายฉบับนี้แบบเร่งด่วนก็จะต้องออกเป็นพระราชกำหนด(พ.ร.ก.) การที่มีข่าวออกมาว่า กฎหมายควบรวมองค์ปกครองส่วนท้องถิ่นผ่านการพิจารณาและมีผลบังคับใช้แล้วนั้นไม่เป็นเรื่องจริงแต่อย่างใด
“คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าวและตีตกไปแล้ว”
นายพิพัฒน์ วรสิทธิดำรง นายกสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย
ข่าวการยุบ อบต.แล้วยกฐานะขึ้นเป็นเทศบาลผ่านสภาแล้วนั้นไม่เป็นความจริง เพราะขณะนี้เรื่องดังกล่าวที่ได้ส่งไปให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณา และคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว และได้ตีตกไปแล้ว เพราะเห็นว่าหลักใหญ่ๆของกฎหมายดังกล่าวที่สปท.ส่งมานั้นขัด รัฐธรรมนูญ ปี 2560 มาตรา 249 ที่ระบุว่า ให้มีการจัดการปกครองส่วนท้องถิ่นตามหลักแห่งการปกครองตนเองตามเจตนารมณ์ของประชาชนในท้องถิ่น ทั้งนี้ตามวิธีการและรูปแบบองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่กฎหมายบัญญัติ การจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในรูปแบบใด ให้คำนึงถึงเจตนารมณ์ของประชาชนในท้องถิ่นและความสามารถในการปกครองตนเองในด้านรายได้ จำนวนและความหนาแน่นของประชากรและพื้นที่ที่ต้องรับผิดชอบประกอบกัน
“โดยความเห็นแล้วไม่เห็นด้วยกับการยุบรวมท้องถิ่นขนาดเล็ก หรือยุบอบต.ขึ้นเป็นเทศบาลทั่วประเทศหากยุบรวมแล้วไม่มีอะไรใหม่ๆเกิดขึ้น ยุบรวมแล้วก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีการแก้ไขเรื่องอำนาจหน้าที่ ยุบรวมไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าจะยุบรวม ทำให้ท้องถิ่นมีขนาดใหญ่ขึ้น ก็จะต้องมีงบประมาณ มีอำนาจหน้าที่ที่ชัดเจนในการที่จะสามารถทำงานให้บริการประชาชนได้” นายกสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย กล่าว
“การแชร์ข่าวขยายวงกว้างออกไปโดยมิได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อให้เกิดความเสียหาย”
นายคอซีย์ มามุ ประธานสมาพันธ์องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น5 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ข่าวที่ได้มีการแชร์กันในโลกออนไลน์เรื่องที่ระบุว่า กระทรวงมหาดไทยได้เสนอเรื่องต่อรัฐบาลให้ดำเนินการยุบรวม อปท. และให้ผู้บริหารอบต. เทศบาล และ อบจ.หยุดปฏิบัติงาน ซึ่งการแชร์ข่าวขยายวงกว้างออกไปโดยมิได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบราชการ โดยส่งผลกระทบทำให้บาง อปท. ยุติการปฏิบัติงาน เนื่องจากผู้บริหารอปท.บางแห่ง ได้รับแจ้งอย่างไม่เป็นทางการ ให้หยุดปฏิบัติงาน ซึ่งการปฏิบัติงานต่อ จะมีผลทางกฎหมายในการไม่มีอำนาจและหน้าที่ นอกจากนี้ข้าราชการท้องถื่น ในระดับต่างๆ มีความวิตกกังวล ในการควบรวมจนเป็นเหตุทำให้หยุดดำเนินการ ในการบริการประชาชน เช่น การจัดส่งผู้ป่วย การดูแลผู้สูงอายุ คนพิการ การจัดการป้องกันภัยพิบัติ และการดำเนินงานด้านงบประมาณ ด้านงบลงทุน ซึ่งเป็นผลเสียต่อประชาชน
ที่มา สยามรัฐ
สำนักข่าววิหคนิวส์