วันนี้ทางทีมงานวิหคนิวส์ต้องขอบอกเลยว่า “หญิงลี ศรีจุมพล” จิตตกหนักหลังป่วยเป็นไทรอยด์จนเกิดอาการหน้าบวมอย่างหนัก ส่งผลให้ต้องตัดสินใจผ่าดูดไขมันบนใบหน้าและลำคอ จนอาการดีขึ้นตามลำดัง ใบหน้าเล็กลงจนเกือบเข้าที่ ล่าสุด “หญิงลี ศรีจุมพล”เปิดใจผ่านรายการ คุยเช้าShow เล่าถึงปัญหาที่เพิ่งผ่านพ้นมาหมาดๆ อย่างอาการป่วยที่หนักขนาดทำให้เธอถึงกับหวั่นใจว่าจะตายหรือไม่ โดยเธอเผยถึงอาการให้ฟังว่าอยู่ๆ ก็ผอมลง แขนขาเล็กลงจนเห็นได้ชัด และอาการป่วยหนักๆ อยู่ถึงครึ่งปีเลยทีเดียว
“คือเราก็ไม่ได้โหมงานหนักเหมือนแรกๆ นะ เพียงแต่เราเหมือนรถที่ใช้อย่างเดียว แต่ว่าไม่ได้ซ่อมแซม หญิงเสียใจที่ปล่อยตัวให้สูญเสียขนาดนี้ เหมือนรถชนที่มาซ่อมอ่ะค่ะ ไม่รู้ว่าเต็มร้อยได้แค่ไหน”
“ตอนแรกไปหาหมอบอกว่ามีความผิดปกติของไทรอยด์ ส่วนโอกาสหายหมอบอกว่ายังไม่แน่ใจเพราะว่ามันยังไม่ชัดเจนมาก”เธอว่า
ก่อนจะเล่าให้ฟังต่อว่า ..
“มันไม่ใช่โรคปกติ มันสำคัญตรงที่การหายใจเราผิดปกติ ไปร้องเพลงเสียงแกว่ง เพราะกล้ามเนื้อทั้งตัวมันหดหาย เลยเร่งกินเนื้อกินโปรตีน ส่วนอื่นเอาไว้ทีหลัง เน้นขาก่อน เอาให้เดินได้”
“ก็เริ่มดีขึ้นไม่ต้องโหนใครเวลาขึ้นบันไดแล้ว แค่ต้องมีคนเดินประกบกลัวตกบันได”
แม้ว่าอาการจะดีขึ้นแต่ว่าก็เกิดผลกระทบอยู่ไม่น้อย เมื่อหน้าตาของเธอบวมขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อย่างที่เคยเป็นข่าวไปก่อนหน้านี้
“ตูดเอวสะโพกฟีบลง แต่หน้าใหญ่ขึ้น ตัวใหญ่ขึ้น เกิดที่ปลายประสาทอักเสบทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง แล้วพอดูในอินเตอร์เน็ตเขาบอกทำให้เสียชีวิตได้ เราก็ยิ่งวิตกจริต”
ซึ่งเธอก็พยายามดูแลสุขภาพและร่างกายเป็นอย่างดี ทั้งทานอาหาร ทายา และออกกำลังกาย ทำกายภาพบำบัด จนดีขึ้นเพื่อที่ไปเข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัด
“พอกล้ามเนื้อเริ่มเข้ามา หัวใจเริ่มเต้นดีขึ้น รอวันดมยาสลบเพื่อผ่าหน้าผ่าคอเอาไขมันออก”
โดยช่วงที่เธอหน้าบวมนั้นก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเพราะผลจากการไปศัลยกรรมหน้าหรือไม่ซึ่งเธอก็ได้บอกว่า
“คือบางคนหาว่าหญิงไปฉีดซิโคนใส่หน้า ไม่มีทางที่จะทำให้หน้าใหญ่ สาวๆ มีแต่ทำให้หน้าเล็ก”
ทั้งนี้ยังเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้คิดถึงขนาดที่จะอัดคลิปสั่งเสียพร้อมทำพินัยกรรมว่าเป็นเพราะอาการตอนนี้หนักมาก รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตาย เลยโทรบอกน้องให้ขึ้นมาหาด่วน
