เกาหลีใต้เตรียมพร้อมรับมือการยิงทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือที่อาจมีขึ้นในวันนี้ (9 ก.ย.) เนื่องจากเป็นวันครบรอบการก่อตั้งประเทศซึ่งมักมีการแสดงแสนยานุภาพของกองทัพ
BBC – ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกาหลีใต้เตือนว่าเกาหลีเหนือมีความเคลื่อนไหวเพื่อเตรียมพร้อมยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM) ครั้งใหม่ ซึ่งอาจยิงทดสอบได้ตลอดเวลาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันสำคัญของชาติ โดยเกาหลีเหนือได้เคยทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 5 ไปในวันนี้เมื่อปีที่แล้ว
มีการซ้อมรบของกองกำลังเกาหลีใต้บนเกาะเพ็งยอง ซึ่งใกล้กับบริเวณเขตแดนทางทะเลที่ทั้งสองเกาหลีมีกรณีพิพาทกันอยู่ ส่วนกองทัพเรือสหรัฐฯแถลงว่า เรือบรรทุกเครื่องบินพลังนิวเคลียร์ ยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกน ได้เดินทางออกจากญี่ปุ่นเพื่อร่วมภารกิจลาดตระเวนมหาสมุทรแปซิฟิกฝั่งตะวันตกประจำฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ซึ่งน่านน้ำในพื้นที่ภารกิจดังกล่าวรวมถึงบริเวณระหว่างญี่ปุ่นและคาบสมุทรเกาหลี
ด้านคณะทูตสหรัฐฯประจำสหประชาชาติแถลงว่า จะขอให้มีการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในวันจันทร์นี้ (11 ก.ย.) เพื่อให้ชาติสมาชิกลงคะแนนรับรองร่างมติเพื่อการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือครั้งใหม่ โดยครั้งนี้จะห้ามการส่งออกน้ำมันไปยังเกาหลีเหนือ ห้ามการส่งออกสิ่งทอ ห้ามการจ้างแรงงานเกาหลีเหนือในต่างประเทศ รวมทั้งอายัดทรัพย์สินของนายคิม จอง อึน ด้วย
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในวงการทูตเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เป็นการยากที่จะทำให้จีนและรัสเซียยินยอมผ่านร่างมติดังกล่าว โดยจีนแสดงความกังวลว่ามาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรง เช่นการห้ามส่งออกน้ำมันไปยังเกาหลีเหนือ อาจทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรงและความปั่นป่วนวุ่นวายภายในประเทศตามมาได้
ด้านนายคิม ฮยอง กิล เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำเม็กซิโก ได้กล่าวแสดงความไม่พอใจต่อการที่รัฐบาลเม็กซิโกมีคำสั่งขับทูตเกาหลีเหนือเพื่อเป็นการต่อต้านการทดลองนิวเคลียร์ครั้งล่าสุด โดยนายคิมระบุว่า ความขัดแย้งระหว่างประเทศของตนและสหรัฐฯในเรื่องการทดสอบขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์นั้น ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของเม็กซิโก คำสั่งขับทูตครั้งนี้เป็นการกระทำที่เขลา และยังพิสูจน์ว่าคำอวดอ้างเรื่องนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระของเม็กซิโกนั้นไร้มูลความจริง
แม้ทางการเม็กซิโกจะแถลงก่อนหน้านี้ว่า ไม่ต้องการตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับเกาหลีเหนือ และคำสั่งขับทูตเป็นเพียงการประท้วงอย่างชัดเจนต่อพฤติกรรมของเกาหลีเหนือเท่านั้น แต่หลายฝ่ายมองกันว่าเม็กซิโกตัดสินใจเดินเกมดังกล่าวเพราะต้องการเอาใจสหรัฐฯให้รักษาความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือ นาฟตา เอาไว้ต่อไป
สำนักข่าววิหคนิวส์