10 ก.ย.60 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือจาก กกต.เชิญไปให้ถ้อยคำกรณียื่นคำร้องให้สอบรัฐมนตรี จำนวน 9 ราย มีการกระทำเข้าข่ายเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามหมวด 9 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 และเข้าข่ายเป็นการขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 264 หรือไม่เพื่อให้ กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามมาตรา 170 วรรคสาม
แนวหน้า – โดยในวันที่ 13 ก.ย.60 เวลา 13.30 น.จะเดินทางไป กกต.เพื่อให้ถ้อยคำต่อไป โดยกรณีนี้ตนเห็นว่ามีรัฐมนตรี 9 คน ที่มีปัญหา ประกอบด้วย นางกอบกาญจน์ วัฒนาวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ นายอภิศักิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมช.ศึกษาธิการ นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนบริษัท ส่วนอีก 1 คน คือ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เนื่องจากเป็นกรรมการสภามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และกรรมการสถาบันพัณฑิตพัฒนศิลป์
สำหรับกรณีนี้ กกต.เพิ่งมีมติเห็นชอบขยายเวลาให้คณะอนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ออกไปอีก 30 วัน นับแต่วันที่ 12 ส.ค.60 หลังครบกรอบเวลา 60 วันแรกที่ กกต.มีคำสั่งแต่งตั้งให้ดำเนินการสอบสวน เนื่องจากทางอนุกรรมการได้เสนอข้อมูลว่าจากที่ได้ขอเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบคุณสมบัติ 9 รมต.ไปยัง 8 หน่วยงาน 51 บริษัท มีเพียง 6 หน่วนงาน 15 บริษัทเท่านั้น ที่ส่งข้อมูลมาแล้ว จึงจำเป็นต้องรอข้อมูลในส่วนที่เหลือให้ครบถ้วน ก่อนที่จะพิจารณาและให้โอกาส รมต.ผู้ถูกกล่าวหาได้เข้าชี้แจง ทั้งนี้ ตามระเบียบแล้วการขอขยายเวลาจะทำได้เป็นครั้งๆ เท่านั้น และแต่ละครั้งจะขอขยายได้ไม่เกิน 30 วัน