ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อวันที่ 10 กันยายน ว่าคืนที่ผ่านมาได้เกิดพายุฝนลมแร่ เกินขึ้นทั่วทั้งจังหวัดอุดรธานี
วัดปริมาณน้ำในได้สูงสุดที่ อ.พิบูลย์รักษ์ 80 มม. โดยเฉพาะที่ อ.บ้านดุง 34 มม. ทำให้ “ต้นชะโนด” ที่ปลายด้วนยืนตายใกล้บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ภายในวังนาคินทร์คำชะโนด หักที่โค่นลำต้นล้มลงทำให้ “บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์” ได้รับความเสียหาย 3 จุด คือ จุดแรกที่เศียรพญานาคพ่นน้ำ 2 เศียร , ตัวนาคที่ขอบบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์เสียหายเล็กน้อย 2 จุด โดยไม่มีผู้ได้รับอันตราย
พ.อ.อ.(พันจ่าอากาศเอก) ยศกร เพชรล้ำ ปลัดอำเภอบ้านดุง นายพงษ์ศักดิ์ ศรีชนะ กำนัน ต.บ้านม่วง นำกำลัง อส. ร่วมกับกรรมการมูลนิธิคำชะโนด ได้เข้าทำการตัดทอนต้นชะโนด รื้อย้ายออกจากบริเวณบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ พร้อมกับทำความสะอาดรอบๆ โดยยุงอนุญาตให้ผู้แสวงบุญ ผู้เดินทางมาขอพร และโชคลาภ เข้ามาในพื้นที่เกาะได้ตามปกติ มีเพียงกันไม่ให้เข้าไปจุดที่ต้นชะโนดล้ม ขณะที่ทำการตัดทอนรื้อย้าย และทำความสะอาด
นายพงษ์ศักดิ์ ศรีชนะ กำนัน ต.บ้านม่วง และกรรมการมูลนิธิคำชะโนด อ.บ้านดุง เปิดเผยว่า เมื่อเกิดพายุลมแรงมากๆ ก็มักจะมีกิ่ง-ใบต้นชะโนด และต้นไม้อื่น หักตกลงมาภายในป่าคำชะโนด ในปีนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สามแล้ว ครั้งนี้เป็นต้นชะโนดที่ยืนตายมากว่า 10 ปี โคนต้นก็คงผุกร่อนไปตามอายุ เมื่อถูกลมแรงๆก็หักโค่น ซึ่งก็ถือปฏิบัติเหมือนทุกครั้ง คือตัดทอนต้นชะโนดออก แล้วทิ้งซากไว้ภายในป่าไม่นำออกมา ซึ่งคณะกรรมการจะคุยกันว่า ต้นที่ยืนตายอยู่อีกหลายต้นจะทำยังไง ที่ผ่านมาไม่มีใครกล้าตัด
นายวีระวัฒน์ วงษ์ศรีรักษา นายอำเภอบ้านดุง เปิดเผยว่า คืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 20.30 น. เกิดเหตุพายุฝนลมแรง พัดบ้านเรือนประชาชน โรงเรือนการเกษตรเสียหายบางส่วน ขณะนี้กำลังเร่งสำรวจความเสียหาย ส่วนที่คำชะโนดได้รับรายงานมาว่า เมื่อเช้ามืดก่อนเปิดเกาะคำชะโนด พนักงานเข้าไปทำความสะอาดเหมือนทุกวัน พบต้นชะโนดที่ยืนตายอยู่แล้ว และล้มลงมาทับรูปปั้นพญานาคและขอบบ่อเสียหาย ซึ่งน่าจะเกิดจากพายุลมแรงเมื่อคืนที่ผ่านมา
โชคดีช่วงกลางคืนไม่มีผู้ใดอยู่ภายใน เบื้องต้นปลัดป้องกันอำเภอบ้านดุง และกำนัน เข้าไปดูแลในพื้นที่แล้ว โดยมีคณะกรรมการฯ กำลัง อส. และประชาชน ช่วยกันเลื่อยต้นชะโนดที่หักโค่นออกเป็นท่อน และทำความสะอาดพื้นที่เรียบร้อยแล้ว โดยไม่มีการปิดเกาะแต่อย่างใด ยังเปิดให้เข้าชมภายในเป็นปกติ หลังจากนี้จะสำรวจดูความมั่นคงของต้นชะโนดทั่วทั้งเกาะ โดยเฉพาะบริเวณรอบทางเดิน ทราบว่ามีต้นที่ยืนตายอีกน่าเป็นห่วง 3 ต้น จะปรึกษากับคณะกรรมการอีกครั้ง หาวิธีตัดรื้อเพื่อความปลอดภัย ใช้เวลาไม่น่าเกิน 1 สัปดาห์ ”…
เครดิต:เพจข่าวอุดรวันนี้
อ.สาริต พรหมนรา สำนักข่าววิหคนิวส์ รายงาน