นายเอกชัย หงส์กังวาน อดีตผู้ต้องหาคดีตามความผิดมาตรา 112 และอดีตเลขาฯนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษากลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้โพสเฟซบุ๊กระบุว่าคืนวันศุกร์ผมโพสท์ว่า “26 นี้ผมจะสวมเสื้อแดง และจะทำในสิ่งที่ใครคาดไม่ถึง” สิ่งนี้สร้างสิ่งที่ตามมาอย่างคาดไม่ถึงเช่นเดียวกัน เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันเสาร์ ผมเดินทางไปที่ร้านนวดแผนไทย ToTo Massage ในตลาดนัดจตุจักรเพื่อเป็นผู้จัดการร้านตามปกติ ผมเปิดร้านนี้เวลา 8.30 น. ผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ตำรวจที่ผมรู้จักเดินทางมาหาผมถึงที่ร้านนี้ ผมรู้สึกตกใจเล็กน้อยที่เห็นเขามาหาผม เขาสามารถพบร้านนี้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องถามเส้นทางที่วกวนแม้แต่น้อย เขาใช้บริการเป็นลูกค้ารายแรกของร้านนี้ เป้าหมายหลักไม่ใช่การนวดไทย แต่เป็นผม
เขาเห็นสิ่งที่ผมโพสท์ในคืนที่ผ่านมา เขาแสดงความกังวลในสิ่งที่ผมจะทำในวันนั้น ที่แย่กว่านั้น หัวหน้าตำรวจของเขากำลังวิ่งวุ่นกับสิ่งที่ผมโพสท์ โอ้…ไม่น่าเชื่อประโยคสั้นๆจะสร้างความสั่นสะเทือนได้มากขนาดนี้
เขาไม่ถามถึงสิ่งที่ผมจะทำ แต่เขาเตือนให้ผมระวังในสิ่งที่ผมจะทำ ผมยืนยันว่า สิ่งที่ผมจะทำไม่ผิดกฎหมายแน่นอน พวกเขาจึงไม่ควรกังวลแบบเดียวกับเหตุการณ์วันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามเขายังคงแสดงความกังวล เขาพยายามชักชวนผมไปคุยที่ร้านอาหาร แต่ผมเบื่อที่จะฟังการโน้มน้าวของพวกเขาจึงแจ้งว่า ผมจำเป็นต้องดูแลร้านนี้ สุดท้ายเขาก็จ่ายค่าบริการแบบลูกค้าทั่วไป ผมยังคงยืนยันตามเดิม เขาจึงเดินจากไป ผมทำนายว่า วันนั้นตำรวจคงมาเฝ้าหน้าบ้านผมตั้งแต่เช้า จริงๆวันนั้นผมกะจะออกช่วงบ่ายนะ ช่วงเช้าผมอาจจะขับรถยนต์ของผมไปเติมน้ำมันที่ปั้มบางจาก เนื่องจากปั้มนี้มีโปรโมชั่นลดราคาพิเศษในวันนั้น ดังนั้นคุณตำรวจ-ทหารไม่ต้องเสียเวลามาตั้งแต่เช้าหรอก ช่วงบ่ายๆค่อยมาก็ได้ ส่งสารลูกน้องทั้งหลายที่ต้องลำบากจากหัวหน้าขี้ตกใจทั้งหลาย
โดยเขายังอ้างว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางมาหาที่ร้านซึ่งตนทำงานอยู่ย่านจตุจักร เพราะผลสืบเนื่องจากที่ตนได้โพสต์ข้อความไว้ในเฟซบุ๊ก เมื่อคืนวันที่ 20 ตุลาคม 2560 ซึ่งตนได้ยืนยันไปว่าจะไม่ทำอะไรที่ผิดกฏหมาย ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารได้เชิญตัวนายเอกชัย หงส์กังวาน อดีตผู้ต้องขังในคดีความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไปพูดคุยทำความเข้าใจที่มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) ภายหลังจากเดินทางมายื่นเรื่องขอให้ตรวจสอบกรณีการเปลี่ยนหมุดคณะราษฎร เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดความเข้าใจผิดและทำให้สังคมเกิดความสับสน ซึ่งคาดว่าใช้เวลาสักระยะ หากมีความเข้าใจกันแล้วก็จะอนุญาตให้เดินทางกลับได้
วันที่28 มีนาคม56 ศาลอาญา อ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้องนายเอกชัย หงส์กังวาน อดีตเลขาฯ นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. ในความผิดหมิ่นสถาบัน จากกรณีขายซีดีสารคดีเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ไทยของสำนักข่าว ABC ประเทศออสเตรเลีย ราคา 20 บาท ซึ่งมีเนื้อหาบางตอนพาดพิงสถาบัน รวมทั้งขายเอกสารวิกิลีกส์ในฉบับแปลเป็นภาษาไทย ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการสนทนาถึงเบื้องหลังการเกิดรัฐประหารเมื่อปี 2549
ทั้งนี้โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานเห็นว่า การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เนื่องจากจำเลยทราบดีอยู่แล้วว่าข้อความดังกล่าวที่นำไปเผยแพร่เป็นข้อความที่ดูหมิ่นรัชทายาท และยังมีการนำไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต พิพากษาจำคุก 5 ปี ปรับ 100,000 บาท ฐานประกอบวิดีทัศน์เผยแพร่โดยไม่มีใบอนุญาต แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงเหลือจำคุก 3 ปี 4 เดือน ปรับ 6.6 หมื่นบาท อย่างไรก็ดี ทนายความของจำเลยได้ยื่นเรื่องขอประกันตัวชั่วคราว และเตรียมขอยื่นอุทธรณ์คดีดังกล่าวภายใน 30 วัน
อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 24 พ.ค.59ที่ผ่านมา ทางบีบีซีไทย – BBC Thai ได้รายงานเรื่องราวของนายเอกชัย หงส์กังวาน ผู้ถูกตัดสินว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากการจำหน่ายวีซีดีสารคดีเชิงวิเคราะห์เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ของไทย ซึ่งจัดทำเผยแพร่โดยสถานีโทรทัศน์แห่งชาติออสเตรเลีย (ABC) และเอกสารวิกิลีกส์ ว่าเอกชัย ต้องโทษจำคุกคำพิพากษาศาลฎีกาเป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน เดินเข้าสู่เรือนจำก่อนที่ประเทศไทยจะมีการรัฐประหาร และกลับออกมาเมื่อมีการรัฐประหารเกิดขึ้นแล้ว โดยพ้นโทษเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2558
Cr.tnews-BBC
สำนักข่าววิหคนิวส์