#แฟ้มลับคดี JFK แฉ กาลครั้งหนึ่ง CIA เคยวางแผนเตรียมสร้างสถานการณ์บึ้มที่ไมอามี่หวังโยนความผิดให้คิวบา

วันที่ 27 ต.ค.60 Sputnik พาดหัวข่าวว่า “ผสมยาพิษในอาหารและระเบิดหอยทะเล: CIA เคยวางแผนลอบสังหารคาสโตร” (Botulism & an exploding seashell: How the CIA planned to kill Castro)

สำนักงานหน่วยข่าวกรองรัฐบาลกลางสหรัฐ (CIA) เคยวางแผนลอบสังหารประธานาธิบดีฟิเดล คาสโตรแห่งคิวบามาแล้วหลายครั้ง ซึ่งรวมทั้งการวางยาพิษทำให้ฟิเดลเป็นโรคโบทูลิสซึม (botulism) การลอบยิง การทำให้ชุดดำน้ำของฟิเดลปนเปื้อนด้วยสารพิษ วางระเบิดในหอยทะเล และเสนอรางวัลค่าหัวเพียงสองเซ็นต์ ข้อมูลจากแฟ้มลับของหน่วยข่าวกรองสหรัฐเปิดเผยใหม่ล่าสุด

เอกสารจำนวน 84 หน้าจากปี 1975 ซึ่งรวมอยู่ในเอกสารบันทึกเกี่ยวกับการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี John F. Kennedy ของสหรัฐในคลังจดหมายเหตุแห่งชาติเปิดเผยว่า ซีไอเอได้วางแผนที่จะสังหารคาสโตรบนแผ่นดินของคิวบาด้วย

+ ยาพิษโบทูลิสซึม

————

แผนการนี้อ้างว่าเป็น “เฟสที่หนึ่ง” ซึ่งรวมถึงการวางยาพิษโบทูลิสซึมโดยซีไอเอ การส่งมอบยาพิษเหล่านี้ได้ดำเนินการในนามของอาชญากร… ซึ่งได้รับยาที่ส่งไปยังสายของตนเองที่มีอยู่ในคิวบา ซึ่งส่งต่อยาไปให้กับบางคนที่สามารถจะใส่ลงในเครื่องดื่มของนายกรัฐมนตรีคาสโตรได้

เอกสารได้แสดงให้เห็นว่า มีการส่งมอบยาพิษถึงสองรอบในคิวบา รอบแรกตกอยู่ในมือของชาวคิวบาคนหนึ่งซึ่งทำงานอยู่ในสำนักงานของนายกรัฐมนตรีคิวบา ซึ่งเป็นสถานที่ที่เขาเข้าถึงตัวของฟิเดล คาสโตรได้ อย่างไรก็ตาม สายของซีไอเอชาวคิวบาคนนั้น “เกิดอาการปอดแหก” (got scared) และไม่ได้วางยาคาสโตร

การส่งมอบยาพิษรอบที่สอง ลงมือโดยสายลับซีไอเอชาวคิวบาอีกคน ซึ่งทำงานอยู่ที่ภัตตาคารแห่งหนึ่งที่คาสโตรไปรับประทานอาหารอยู่บ่อยๆ และและมีโอกาสที่จะใส่ยาพิษลงในเครื่องดื่มของคาสโตรได้ อย่างไรก็ตามคาสโตรได้เปลี่ยนใจที่จะไม่เข้าไปภายในภัตตาคารแห่งนั้นในช่วงเวลาที่ยาพิษถูกส่งมาพอดี

+ มือปืนลอบสังหารฉายเดี่ยว

————

หลังจากที่ลอบสังหารด้วยยาพิษไม่เป็นไปตามที่ไว้วางแผนเอาไว้ ซีไอเอก็หันไปใช้ “เฟสที่สอง” ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ถึงสองครั้ง ด้วยการทบทวนการวางยาพิษอีกรอบ และใช้มือปืนลุยเดี่ยวลอบยิงแทน

ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่คดีนี้ตามที่ระบุในเอกสารกล่าวว่า “การส่งมอบเงินทุนสำหรับการจัดหาปืนไรเฟิลและปืนพก รวมทั้งยาพิษเพิ่มเติม และยาปฏิชีวนะเกิดขึ้นในช่วงภาคฤดูร้อนของปี 1962 ค่าใช้จ่ายทั้งหมดไม่ถึง $5,000”

อย่างไรก็ตาม ต่อมาเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลคดีนี้ได้ระบุว่า แผนการนี้มีโอกาสน้อยมากที่จะประสบความสำเร็จ และได้ตัดสินในยกเลิกแผนการดังกล่าว

+ การปนเปื้อนสารพิษในชุดว่ายน้ำและการใช้หอยทะเลระเบิด (หอยบอมบ์)

————

รายงานในปี 1967 โดยฝ่ายจเร เปิดเผยว่า “มีการคำนวณที่ผิดพลาดเกิดขึ้นในปี 1963” หนึ่งในแผนการ “เฟสที่สาม” ซึ่งรวมทั้งการใช้ชุดน้ำของคาสโตร ซึ่งนิยมชมชอบการว่ายน้ำ

“แผนการของซีไอเอก็คือใส่ฝุ่นเชื้อโรคเข้าไปข้างในชุดว่ายน้ำที่จะทำให้เกิดโรคเท้าเปื่อยพุพอง (madera foot) แบบเรื้อรัง และใส่เชื้อแบคทีเรียวัณโรคลงในอุปกรณ์สำหรับหายใจในอุปกรณ์ดำน้ำ” เอกสารระบุ

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการดำเนินแผนการนี้ เนื่องจากนาย James Donovan นักกฎหมายผู้ที่รับหน้าที่เจรจาลับกับคาสโตรหลังวิกฤตขีปนาวุธที่คิวบา ได้เปิดเผยความลับนี้ว่า พวกเจ้าหน้าที่ซีไอเอได้วางแผนให้เขาเป็นผู้จัดหาชุดว่ายน้ำ [ปนเปื้อน] ที่ไม่รู้เรื่อง…เพื่อมอบให้เป็นของขวัญแก่คาสโตร เนื่องจากทั้งสองคนต่างก็ชอบการดำน้ำ แต่ Donovan ก็ได้มอบชุดว่ายน้ำที่ไม่ปนเปื้อนให้กับคาสโตรแทน

“เฟสที่สาม” ยังได้รวมถึงการรวมหัวกันวางแผนเพื่อเตรียมวางกับดัก (booby trap) โดยใช้เปลือกหอยทะเลเป็นเครื่องมือ ในพื้นที่ที่ดาสโตรไปดำน้ำเล่นอยู่บ่อยๆ โดยจะมีการซุกซ่อนวัตถุระเบิดไว้ที่เปลือกหายเหล่านั้นเพื่อทำให้เกิดการะเบิดเมื่อมีถูกยกขึ้น

อย่างไรก็ตาม ต่อมามีการเปิดเผยว่า “ในทะเลคาริเบี้ยน กลับไม่มีเปลือกหอยที่มีขนาดใหญ่พอที่จะใส่วัตถุระเบิดจำนวนที่พอเพียง (สำหรับการสังหาร) เพื่อดึงดูดความสนใจของคาสโตรได้” และเรือดำน้ำขนาดเล็กที่จะไปปฏิบัติภารกิจวางเปลือกหอยในตำแหน่งที่ถูกต้องก็ไม่สามารถปฏิบัติการในรัศมีที่ไกลขนาดนั้นได้

สื่อสหรัฐเปิดเผยว่า คุณซี เคยวางแผนชั่วเตรียมสังหารคาสโตร โดยการจัดฉากสร้างสถานการณ์ก่อเหตุระเบิดที่ไอมามี่มาแล้ว ในปี 1960 โดยการเตรียมการสร้างสถานการณ์แบบก่อการร้ายด้วยระเบิด และโยนความผิดให้กับชาวคิวบาโปร-คาสโตร

ข้อมูลจากแฟ้มลับของสหรัฐเปิดเผยว่า “เราสามารถที่จะทำให้เกิดแคมเปญจ์ก่อการร้ายด้วยพวกคอมมิวนิสต์คิวบาในพื้นที่ไมอามี่ ในเมืองอื่นๆในฟลอริดา และแม้กระทั่งในกรุงวอชิงตันก็ได้ เราสามารถที่จะจมเรือที่มีชาวคิวบาเต็มลำเรือซึ่งกำลังมุ่งหน้ามายังฟลอริดา (ทั้งสถานการจริงหรือสร้างขึ้นมาเอง) เราสามารถใช้ชีวิตของบรรดาผู้ลี้ภัยชาวคิวบาในสหรัฐแม้กระทั่งเพื่อขยายบาดแผลในกรณีต่างๆให้กว้างออกไปในสาธารณชนได้ การก่อเหตุระเบิดด้วยระเบิดพลาสติกขนาดเล็กในการเลือกจุดก่อเหตุอย่างระมัดระวัง การจับกุมสายลับชาวคิวบา และเปิดเผยเอกสารที่มีการเตรียมการเอาไว้แล้ว เพื่อยืนยันการมีส่วนร่วมของคนคิวบา จะเป็นประโยชน์ในการฉายภาพแนวคิดของรัฐบาลที่ขาดความรับผิดชอบ (ของคิวบาด้วย)”