เปิดแฟ้ม…คดีอาชญากรรมสุดสะเทือนใจ !!! “เตือนใจ”นักศึกษาสาวสวย ที่ถูกรุมข่มขืนอย่างทารุณ กลางซอยสุขุมวิท 101 !!!
หากย้อนกลับไปเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก คดีสะเทือนขวัญอย่าง เตือนใจ พวงนาค ที่ถูกจิ๊กโก๋กลุ่มหนึ่งฉุดไปข่มขืนแล้วฆ่าทิ้งชิงทรัพย์อย่างทารุณ โดยได้ทิ้งร่องรอยไว้เป็นรอยกัดที่ร่างของเธอ ก่อให้เกิดความหวาดกลัวกับหญิงสาวในยุคนั้นมาก ตำรวจจึงเริ่มสืบหาคนร้ายจากร่องรอยศพของเตือนใจ จนจับฆาตกรได้ในที่สุด โดยเหตุการณ์ในคดีประวัติศาสตร์นี้จะเป็นอย่างไรเราลองไปอ่านกันดีกว่าครับ
เตือนใจ พวงนาค เป็นเด็กสาวมหาวิทยาลัยครูสวนสุนันทา และ พ่อ แม่ ของ เตือนใจ เปิดร้านขายของอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 101 ซึ่งเป็นซอยที่ลึกแล้วเปลี่ยวมากในขณะนั้น ในวันหนึ่งขณะนั่งรถเมล์กลับบ้าน เตือนใจ ได้เผอิญเหยียบเท้านักเรียนนายร้อยคนหนึ่ง และทำให้ได้รู้จักกัน แล้วสนิทสนมกันมาก นายร้อยคนนั้นท่าทางหน้าตาดี โดยมีชื่อว่า นตท.วีระเดช สุบรรณรักษณ์
เตือนใจ มีเพื่อนสนิทอยู่ด้วยกัน 4 คน โดยมีชื่อว่า ตุ๋ย เปิ้ล หนิง และ แป๋ว ทั้งหมดสนิทสนมกันมากไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เพราะเนื่องจากบ้านของทั้งหมดอยู่ในซอยเดียวกัน โดยหลังจากที่ เตือนใจ รู้จักกับ นตท.วีระเดช ทั้งคู่กับได้ติดต่อกันตลอดเรื่อยมา ซึ่งต่อมา เตือนใจก็แนะนำ นตท.วีระเดช ให้เพื่อนสนิททั้ง 4 คนรู้จัก และเมื่อ นตท.วีระเดช ได้เจอเพื่อนๆทั้ง 4 คน ของ เตือนใจ จึงนำไปเล่าให้เพื่อนที่เรียนนายร้อยตำรวจด้วยกันฟัง ว่าเพื่อนๆของเตือนใจทั้ง 4 คนสวยมาก เพื่อนๆของ นตท.วีระเดช ทั้ง 4 คนจึงเกิดสนใจ แล้วทั้งหมดก็ตกลงนัดเจอกัน และนัดไปเที่ยวพัทยากัน ทั้งหมดจึงได้สนิทสนมกันเป็นอย่างดี
ขากลับจากพัทยา กลุ่มนักเรียนนายร้อยได้ไปส่งเตือนใจ และ เพื่อนๆจนถึงบ้านทุกคน แต่ระหว่างทางที่ไปส่งนั้น กลุ่มนักเรียนนายร้อยได้มีเรื่องกับกลุ่มจิ๋กโก๋ภายในซอยจนเกือบมีเรื่องชกต่อยกัน แต่ก็ไม่มีเรื่องกันบานปลายเพราะกลุ่มสาวๆได้ห้ามทัพทั้งสองฝ่ายไว้ ไม่อยากให้มีเรื่องกัน
วันหนึ่งทางโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ได้จัดงานการแข่งขันกีฬาประจำปีขึ้น เตือนใจ และเพื่อนๆทั้ง 4 ก็ได้เดินทางไปงานด้วย แต่วันนั้นบังเอิญ แม่ของ นตท.วีระเดช เกิดป่วยกระทันหัน นตท.วีระเดชจึงหยุดไม่ได้ไปงานกีฬาโรงเรียนนายร้อย ทำให้เพื่อนๆของเตือนใจทั้ง 4 อยู่กันครบคู่กับแฟนหนุ่มนายร้อย มีแค่เตือนใจเท่านั้นที่ต้องอยู่คนเดียว เตือนใจจึงไม่รบกวนเพื่อนๆและขอตัวกลับบ้านก่อน เพราะไม่ได้บอกที่บ้านไว้ว่าจะมา
และเหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเตือนใจกำลังจะกลับบ้าน ในขณะนั้นเป็นเวลาค่ำ ผู้คนน้อยจนแทบจะไม่มีคนเดินผ่าน รถลาในสมัยนั้นก็ไม่มีเข้าซอย บวกกับซอยที่เปลี่ยวสนิท เตือนใจ เดินเข้าซอยเพียงลำพัง เตือนใจ ถูกวัยรุ่นหลายคนรุมข่มขืน ด้วยความทารุณมีร่องรอยการต่อสู้อย่างสุดชีวิต แต่ผู้หญิงตัวเล็กคนยากที่จะทานทนเดนสังคมทั้ง 4 ท้ายที่สุดเตือนใจถูกข่มขืน สังหาร และชิงทรัพย์ โดยเจอศพอยู่ที่ข้างทางในคืนนั้นเอง เนื่องจาก พ่อแม่ ของเตือนใจเห็นลูกสาวกลับบ้านผิดเวลาจึงออกตามหา และพบศพเตือนใจ สร้างแผลแผลครั้งใหญ่ให้พ่อแม่ เนื่องจากสภาพศพที่ดูช่างทารุณเสียเหลือเกิน
และจากการตรวจสอบสภาพศพ ในขณะนั้น หมวดทวนธน คำมีศรี สายสืบพิเศษเป็นคนดูแลคดีนี้ เห็นสภาพศพถึงกับเบนหน้าหนี ที่คอของเตือนใจมีร่องรอยของการโดนกัด โดยคนที่กัดนั้น ฟันหน้าหักหนึ่งซี่ จากรอยแหว่งของรอยฟันบนผิวหนังของเหยื่อ และที่ซอกเล็บของเตือนใจ มีหนังของคนร้ายติดอยู่เป็นจำนวนมาก หมวดทวนธน จึงตั้งเป้าไปที่ คนร้ายจะต้องมีฟันหน้าหัก 1 ซี่ และ รอยข่วนบนร่างกาย จึงเร่งให้ลูกน้องหาตัวคนร้ายทันที และไปได้ตัวผู้ต้องสงสัยคนหนึ่ง ชื่อว่า เทพ เทียนชัย นักร้องในห้องอาหารแห่งหนึ่ง เพราะมีรอยข่วน และฟันหน้าหัก แต่เมื่อมาถึงโรงพัก หมวดทวนธน ก็สั่งให้ลูกน้องปล่อยตัว เทพ เทียนชัย ทันที เพราะ รอยฟังไม่ตรงตามร่องรอยบนตัวศพ นั่นเพราะ เทพ ฟันหักทั้งแถบ
หมวดทวนธน ลงพื้นที่ด้วยตัวเอง กับลูกน้องอีก 2 คน และต้องการจับผู้ร้ายมาดำเนินคดีให้ได้อย่างจริงจัง และ เร็วที่สุด เพราะนี่คือคดีที่ทุกคนจับตามาก ตำรวจทั้งสามคนได้ลงพื้นที่ในเขตซอยสุขุมวิท 101 และได้จับวัยรุ่นกลางซอยมาเค้นอย่างหนัก จนวัยรุ่นยอมบอกว่า มีจิ๊กโก๋กลางซอยคนหนึ่ง ฟันหน้าหักหนึ่งซี่ โดยรู้จักกันในหมู่วัยรุ่นว่า ไอ้หลอ ชอบเที่ยวเตร่ตามลานโบว์ลิ่ง และโต๊ะบิลเลียดเป็นประจำ
ตำรวจพิเศษทั้งสามคน เมื่อรู้ตัวผู้ต้องสงสัยก็ออกตามหาทันที โดยไปตามลานโบว์ลิ่ง และโต๊ะบิลเลียด ตามที่วัยรุ่นบอกกล่าว แต่ก็ไม่พบตัว ผ่านไปได้ สองสามวัน ตำรวจทั้ง 3 ก็ย้อนกลับไปที่โต๊ะบิลเลียดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เจอตัวไอ้หลอ และพวก แต่ปารกฎว่า ไอ้หลอและพวกไหวตัวทัน จึงรีบหนีออกไป ในขณะที่หนีออกไปก็ได้จี้รถแท๊กซี่คันหนึ่งไปด้วย
ตำรวจพิเศษทั้ง 3 คนก็ออกตามอย่างกระชั้นชิด และแจ้งวิทยุให้ตำรวจทุกคันที่อยู่ในพื้นที่ปิดกั้นรถแท๊กซี่คันดังกล่าว และสุดท้ายไอ้หลอและพวกก็ไปไม่รอดถูกจับได้คารถแท๊กซี่ที่จี้มา
หลังจากที่จับกุมมาได้ ไอ้หลอ ให้การปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา จนกระทั่ง หมวดทวนธน ทนไม่ไหว จับไอ้หลอพามาที่ห้องเก็บศพ และเปิดศพออกมาให้ไอ้หลอดู และเมื่อไอ้หลอได้เห็นสภาพศพไอ้หลอทนไม่ไหวกับการกดดันในสภาพจิตใจจึงได้ทำการรับสารภาพออกมา
แต่เมื่อกลับมาถึงโรงพัก ไอ้หลอ ก็ให้การปฎิเสธอีกครั้ง ทั้งที่คราวนี้มีหลักฐานมัดตัวเต็มที่ ทั้งตั๋วจำนำที่เป็นรอยนิ้วมือไอ้หลอที่สิ่งของเป็นสมบัติของเตือนใจ และรอยนิ้วมือบนข้าวของเครื่องใช้ของเตือนใจ ที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ
หมวดทวนธน สุดกลั้นกับความยั่วยวนกวนประสาทของไอ้หลอไม่ไหว จึงทำการซ้อมไอ้หลอ และบอกว่าเพื่อนๆที่ร่วมมือกับมันยองรับสารภาพหมดแล้ว ไอ้หลอจึงยอมรับสารภาพในที่สุด
เรื่อง เตือนใจ คดีที่ไม่มีวันลืม ได้ถูกสร้างจนกลายเป็นหนังฟอร์มยักษ์ของประเทศไทยในยุคนั้น และหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับวัยรุ่นในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
อ้างอิงข้อมูลจาก – หนังสือสยามนิกร
เรียบเรียงโดย
ปิยะนัย เกตุทอง : สำนักข่าวทีนิวส์
วิฑูรย์ โคตรทุม
สำนักข่าววิหคนิวส์