ปรากฏการณ์ Bitcoin ล่ม! ราคาดิ่งลง 900 ดอลลาร์ในช่วง 48 ชม.ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
“จับตาแองเกลา เมอร์เคิล ตอกย้ำในระหว่างหาเสียงช่วงสุดสัปดาห์ในเยอรมันว่ายุโรปต้องกำหนดชะตากรรมในอนาคตของตัวเอง จะมัวพึ่งพาอังกฤษและสหรัฐ ไม่ได้ต่อไปอีกแล้ว หลังงัดข้อในที่ประชุมกลุ่ม G-7 กับโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ไม่ยอมตอบรับข้อตกลงปารีสในเรื่อง Climate Change ที่กำหนดให้ร่วมกันลดภาวะโลกร้อน รวมถึงก่อนหน้าที่การประชุม G-7 จะเรื่มขึ้นนั้น สหรัฐยังคงกดดันในเรื่องที่เยอรมันได้เปรียบดุลการค้าที่เพิ่มสูงขึ้น 6.4 หมื่นล้านดอลลาร์ล่าสุด
..
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยอมรับให้มีการตกลงแแค่เรื่องความร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้าย ตามที่ Theresa May นายกรัฐมนตรีอังกฤษเป็นฝ่ายเสนอ ซึ่งผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากเพิ่งเกิดเหตุระเบิดจากกลุ่มก่อการร้าย IS ครั้งร้ายแรงที่แมนเชสเตอร์ อารีนา เมื่อวันจันทร์ที่แล้วนี้เอง จนมีผู้เสียชีวิต 22 คน และบาดเจ็บ 112 คน ล่าสุดทางการอังกฤษได้ประกาศลดระดับการเตือนภัยก่อการร้ายลงหนึ่งขั้นจากขั้นวิกฤติ สู่ขั้นร้ายแรง ขณะที่การจับกุมผู้ต้องสสงสัยยังคงเพิ่มขึ้นเป็น 14 ราย
1.ปรากฏการณ์ Bitcoin ล่ม! ในช่วง 48 ชั่วโมงระหว่างสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่การลดอันดับความน่าเชื่อถือในประเทศจีนของมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส มีขึ้นในวันพุธทำให้ Bitcoin พุ่งขึ้นทะลุระดับ 2,600 ดอลลาร์ แต่เมื่อมีการทำสถิติที่ราคาสูงสุดถึง 2,760 ดอลลาร์ในวันพฤกัสบดี หลังจากนั้นราคา Bitcoin อ้างอิงดอลลาร์สหรัฐดิ่งลงรุนแรง 30% หรือมากกว่า 900 ดอลลาร์ จนมาอยู่ที่ระดับ 2,212 ดอลลาร์ก่อนเปิดตลาดเอเชียในช่วงเช้าวันจันทร์นี้
โดยมีรายงานว่า หลังจากที่เกิดแรงปั่น Bitcoin จนมีราคาพุ่งขึ้น 160% ตั้งแต่ต้นปี 2017 เนื่องจากความต้องการของกลุ่มนักลงทุนในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้มีราคาพุ่งขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะแรงผลักดันจากกลุ่มธุรกิจในเกาหลีใต้ที่คาดว่ามาจากความต้องการของกลุ่มธุรกิจ Charboal ขนาดใหญ่ ที่ทำให้ราคา Bitcoin นับจากต้นปีนี้พุ่งขึ้นจาก 2,500 ดอลลาร์ เป็น 2,600 ดอลลาร์ และในที่สุดคือ 2,700 ดอลลาร์เป็นครั้งแรก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคา Bitcoin ดิ่งลงมากกว่า 30% ในช่วงสุดสัปดาห์ก่อน แต่ราคาในขณะนี้ยังคงสูงขึ้นจากต้นปีนี้ถึง 140%
2.Bitcoin เป็นสกุลเงินที่ซื้อขายในระบบดิจิตัลที่เรียกว่า Crypto Currency โดยที่มีการอ้างอิงรับรองการซื้อขายจาก 56 บริษัทใน 21 ประเทศของ Digital Currency Group มีขนาดตามมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ฐานะของ Bitcoin ในประเทศไทยยังไม่ได้เป็นที่ยอมรับจากธนาคารแห่งประเทศไทยให้สามารถนำมาใช้เป็นสกุลเงินในการชำระสินค้าและบริการ หรือการชำระหนี้อย่างเป็นทางการหรือถูกต้องทางกฎหมาย แต่ก็เป็นที่จับตามองมากขึ้น โดยเฉพาะล่าสุดมีการเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่แฮกเกอร์ที่เรียกว่า Shadow Brokers ปล่อยมัลแวร์ไสรัสเรียกค่าไถ่ที่มีชื่อว่า WannaCry ทำการบล็อกคอมพิวเตอร์ทั่วโลกกว่า 370,000 รายใน 150 ประเทศที่แพร่ระบาดเมื่อวันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม โดยเรียกค่าไถ่เบื้องต้นเป็นเงิน Bitcoin จำนวน 300 ดอลลาร์
3.ส่วนทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชนกับแองเกลา เมอร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมัน ในเวทีประชุมกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม G-7 โดยที่ทรัมป์มักจะกล่าวหาประเทศที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐ ก่อนที่การประชุม G-7 จะเริ่มขึ้น อย่างเช่นเยอรมันในครั้งล่าสุดที่มีการเกินดุลการค้ากับสหรัฐมากกว่า 6.4 หมื่นล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ซึ่งมากเป็นอันสาม องมาจากจีน และญี่ปุ่น
ส่งผลให้การประชุม G-7 กร่อยลงไปถนัดตา ซึ่งทำให้ไร้ข้อสรุปโดยเฉพาะเรื่อง Climate Change ซึ่งสมาชิกอีก 6 ประเทศคือเยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี แคนาดา และญี่ปุ่น สนับสนุนให้ยอมในข้อตกลงที่ปารีส แต่ท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์กลับไม่ยอมตอบรับข้อตกลงปารีสในเรื่อง Climate Change ที่กำหนดให้ร่วมกันลดภาวะโลกร้อน รวมทั้งไม่ยอมรับในเรื่องการอพยพของกลุ่มคนชาวมุสลิมจากประเทศที่เกิดภาวะสงคราม
4.โดยที่ประธานาธิบดีทรัมป์ยอมรับให้มีการตกลงแแค่เรื่องความร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้าย ตามที่ Theresa May นายกรัฐมนตรีอังกฤษเป็นฝ่ายเสนอ ซึ่งผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองระหว่างประเทศถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากเพิ่งเกิดเหตุระเบิดจากกลุ่มก่อการร้าย IS ครั้งร้ายแรงที่แมนเชสเตอร์ อารีนา เมื่อวันจันทร์ที่แล้วนี้เอง จนมีผู้เสียชีวิต 22 คน และบาดเจ็บ 112 คน
ล่าสุดทางการอังกฤษได้ประกาศลดระดับการเตือนภัยก่อการร้ายลงหนึ่งขั้นจากขั้นวิกฤติ สู่ขั้นร้ายแรง ขณะที่การจับกุมผู้ต้องสสงสัยยังคงเพิ่มขึ้นเป็น 14 รายแล้ว
ขณะที่นักลงทุนในตลาดยังคงจับตาการงัดข้อระหว่าง 2 ผู้นำจากสหรัฐและเยอรมัน โดยเฉพาะท่าทีของแองเกลา เมอร์เคิล ที่ผนึกเป็นพันธมิตรแนบแน่นกับ Emmanuel Macron ประธานาธิบดีฝรั่งเศส โดยเฉพาะสิ่งที่แองเกลา เมอร์เคิล ได้ตอกย้ำในระหว่างหาเสียงช่วงสุดสัปดาห์ในเยอรมันว่า ยุโรปต้องกำหนดชะตากรรมในอนาคตของตัวเอง จะมัวพึ่งพาอังกฤษและสหรัฐ ไม่ได้ต่อไปอีกแล้ว
5.หลังจากที่จีนถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือจากระดับ Aa3 สู่ A1 เมื่อวันพุธที่แล้ว ส่งผลให้ต้นการกู้ยิมเงินของจีนพุ่งสำหรับการระดมทุนระยะสั้นเพียงช่วงเวลา 1 สัปดาห์ พุ่งขึ้นเท่ากับ 14% เมื่อเทียบเท่ากับการกู้ยืมเป็นรานปี
อย่างไรก็ตาม กลับมีรายงานข่าวว่า ธนาคารกลางของจีนได้กลับเข้ามาซื้อบอนด์รัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี เข้ามาเป็นทุนสำรองระหว่งประเทศเพิ่มขึ้นถึง 6.12 หมื่นล้านดอลลาร์ สู้ระดับ 2.922 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2016 โดยที่ปีที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนมีการขายบอนด์รัฐบาลสหรัฐจำนวนมหาศาลถึง 4.05 แสนล้านดอลลาร์”
อ่านต่อที่:http://www.nationtv.tv
#Wanwilai วันวิไล รักการดี สำนักข่าว Vihoknews