กองทุนการเงินระหว่างประเทศเรียกร้องให้ใช้ความระมัดระวังการคลังในการก่อหนี้ทั่วโลก
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เรียกร้องให้รัฐบาลต่างๆ ใช้ความระมัดระวังมากขึ้นด้านการคลังขณะที่รัฐบาลทั่วโลกต้องหันมากู้ยืมเงินมากขึ้นเพื่อพยุงเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ซึ่ง IMF กล่าวว่าระดับหนี้อาจทะยานสู่ระดับสูงสุดในปีนี้
“เป็นที่ชัดเจนว่าความต้องการการสนับสนุนทางการเงินมีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เรื่องนี้ทำให้เกิดคำถามว่าประเทศต่างๆจะสามารถพยุงการเงินได้อย่างไรโดยไม่มีหนี้สิน เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้มากขึ้นเรื่อย ” ผู้อำนวยการฝ่ายการคลัง Vitor Gaspar และ Gita Gopinath หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกองทุน กล่าว
IMF ระบุว่า ในขณะที่รัฐบาลจะได้รับประโยชน์จากต้นทุนการกู้ยืมที่ต่ำเป็นประวัติการณ์และจะคงอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลายาวนาน แต่ปัญหาก็คือการกู้เงินมหาศาลเพื่อมารองรับการระบาดและช่วยพนยุงภาคธุรกิจไม่ให้ล้มละลาย จะทำให้เกิดหนี้ที่มากกว่า 100% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศทั่วโลกในปี 2020ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์
ในเดือนมิถุนายน IMF คาดการณ์ว่าจะเกิดภาวะถดถอยที่เลวร้ายลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยปรับลดแนวโน้มเศรษฐกิจโลกลงโดยจาก 4.9% ในปีนี้ซึ่งเป็นการถดถอยที่หนักที่สุดนับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่เมื่อทศวรรษที่ 1930
กองทุนเตือนว่าต้นทุนการกู้เงินอาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และตลาดชายขอบเช่นที่เกิดขึ้นในเดือนมีนาคม สำหรับประเทศที่เข้าสู่ภาวะวิกฤติพร้อมกับหนี้มากและเศรษฐกิถดถอยเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจำเป็นจะต้องหันกลับไปใช้นโยบายที่สมดุล
“ รัฐบาลจะต้องดำเนินการตามแผนการคลังระยะกลางที่น่าเชื่อถือโดยอาศัยการปรับปรุงการระดมรายได้ (เข้ารัฐ) รวมถึงการลดการหลีกเลี่ยงภาษีให้น้อยที่สุด ใช้อัตราภาษีก้าวหน้าให้มากขึ้นในบางกรณี การกำหดต้นทุนการปล่อยคาร์บอน และมีประสิทธิภาพการใช้จ่ายที่สูงขึ้น” Gaspar และ Gopinath กล่าว
พวกเขากล่าวเสริมว่าสถาบันการเงินระหว่างประเทศต่างๆ จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าความตื่นตระหนกของตลาดจะไม่กระทบต่อการเข้าถึงสภาพคล่องทางการเงิน