เรียกว่าเป็นการยุติกิจการถึง 2 ประเทศในรอบ 1 เดือนเลยทีเดียว หลังจากต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Shopee แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ประกาศ ‘ถอนทัพ’ จากฝรั่งเศสโดยที่ไม่เปิดเผยเหตุผลที่ชัดเจน มาปลายเดือนก็ได้ถอดธุรกิจออกจากอินเดีย
.
Shopee ซึ่งขยายไปสู่ตลาดโลกมากถึง 9 แห่ง รวมถึงบราซิล โปแลนด์ เม็กซิโก โคลอมเบีย และชิลี ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กล่าวในแถลงการณ์ว่าการถอนตัวเกิดขึ้น ‘เนื่องจากความไม่แน่นอนของตลาดโลก’ และจะทำให้ ‘กระบวนการนี้ราบรื่นที่สุด’ โดยธุรกิจจะปิดตัวตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคมเป็นต้นไป
.
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนหลายร้อยคนที่ Shopee จ้างงานในอินเดีย ขณะที่ทีมงานท้องถิ่นของอินเดียได้รับทราบเกี่ยวกับการตัดสินใจดังกล่าวในการประชุมทางโทรศัพท์เมื่อวันจันทร์ (28 มีนาคม) ที่ผ่านมา
.
.
ธุรกิจของ Shopee ในอินเดียเริ่มต้นขึ้นในเดือนตุลาคม 2021 ซึ่งแหล่งข่าวกล่าวกับ Reuters ว่า มีการวางแผนที่จะลงทุนมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3.4 หมื่นล้านบาท อันจะเป็นอาวุธสำคัญที่จะเจาะตลาดอีคอมเมิร์ซที่เติบโตอย่างรวดเร็วของอินเดียถูก ซึ่งกำลังถูกครอบงำโดยผู้เล่นเช่น Amazon.com และ Flipkart ของ Walmart
.
แน่นอนว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะ ‘ปลื้ม’ กับการมาถึงของผู้เล่นจากต่างชาติ โดย The Confederation of All India Traders (CAIT) ได้ติดต่อกับ นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย เพื่อเตือนเขาว่าการมาของผู้เล่นต่างชาติจะทำให้เกิด ‘การค้าที่ไม่เป็นธรรม’ เพราะพวกเขาจะเลี่ยงกฎเกณฑ์และเสนอส่วนลดที่ส่งผลร้ายต่อธุรกิจในท้องถิ่น
.
บุคคลที่มีความรู้โดยตรงมองว่า การที่ Sea ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Shopee ถอดตัวออกจากอินเดีย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการตรวจสอบกฎระเบียบที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ซึ่งเห็นว่า Free Fire แอปเกมหลักของ Sea ถูกแบนเนื่องจากถูกกล่าวหาว่าส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ในจีน แม้ Sea จะปฏิเสธก็ตาม
.
กระนั้น Sea ก็แย้งว่า “การตัดสินใจเกี่ยวกับ Shopee อินเดีย ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องกฎระเบียบ” พร้อมเสริมว่า “เรายังคงดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ Free Fire ในอินเดีย”
.
โดยหลังจากที่ทางการอินเดียสั่งแบน Free Fire ก็ทำให้มาร์เก็ตแคปของ Sea ที่จดทะเบียนในนิวยอร์กลดลง 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันเดียว ขณะเดียวกันพายุที่ถาโถมเข้ามาหลายเรื่องก็ทำให้มาร์เก็ตแคปที่เคยสูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์ ลดลงเหลือ 6.476 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมีนาคม 2022
.
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Sea ประเมินว่า การเติบโตของรายได้ของธุรกิจอีคอมเมิร์ซอาจจะไม่หวือหวาอีกแล้ว โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตเพียง 76% ในปีนี้ ซึ่งลดลงครึ่งหนึ่งจากที่เคยเติบโต 157% ในปี 2021 อันเป็นผลมาจากซื้อและการมีส่วนร่วมทางออนไลน์ลดน้อยลง
.
บริษัทในสิงคโปร์ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านการบริการดิจิทัลต่างๆ ตั้งแต่เกมออนไลน์ไปจนถึงอีคอมเมิร์ซและการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่งรายงานรายได้ 9.95 พันล้านดอลลาร์ในปี 2021 เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่ผลขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 2.04 พันล้านดอลลาร์ (6.6 หมื่นล้านบาท) จาก 1.61 พันล้านดอลลาร์