14 ก.ย.2565 – นายศดิศ ใจเที่ยง นายกสมาคมแท็กซี่สาธารณะไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา คณะทำงานบริหารร่วม 4 สมาคม ประกอบด้วย สมาคมประสานงานรถรับจ้างสุวรรณภูมิ สมาคมผู้ขับรถแท็กซี่สาธารณะ สมาคมแท็กซี่ยานยนต์ไฟฟ้า และ สมาคมแท็กซี่สาธารณะไทย ได้ขอเข้าพบนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เรื่องขอให้พิจารณาการขอปรับอัตราค่าโดยสาร โดยมีนางสิริรัตน์ วีรวิศาล รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เป็นผู้รับเรื่องและให้เข้าร่วมประชุมแทน
ทั้งนี้ในการประชุมครั้งนี้ ได้เสนอให้ ขบ. พิจารณาปรับอัตราค่าโดยสารดังนี้ รถเล็กเครื่องยนต์ขนาด 1,600-1,800 ซีซี 1 กิโลเมตร (กม.) แรก หรืออัตราค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 45 บาท ส่วนรถใหญ่เครื่องยนต์ขนาด 2,000 ซีซีขึ้นไป เริ่มต้นที่ 50 บาท จากนั้น กิโลเมตรที่ 2-20 ราคา 10 บาท/กม. กิโลเมตรที่ 21-40 ราคา 11 บาท/กม. กิโลเมตรที่ 41-60 ราคา 12 บาท/กม. กิโลเมตรที่ 60-80 เป็นต้นไป ราคา 13 บาท/กม.
กรณีรถติดเคลื่อนตัวประมาณ 25 กม./ชั่วโมง นาทีละ 5 บาท ค่าเซอร์วิสชาร์ตสำหรับแท็กซี่สนามบิน ราคา 75 บาท (รถเล็กเครื่องยนต์ขนาด 1,600-1,800 ซีซี) และ 90 บาท (รถใหญ่เครื่องยนต์ขนาด 2,000 ซีซีขึ้นไป)
อย่างไรก็ตาม ในการหารือครั้งนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป และ ขบ. จะนำความคิดเห็นของคณะทำงานบริหารร่วม 4 สมาคม ไปพิจารณาการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารให้เหมาะสม และเป็นธรรมกับผู้ขับรถแท็กซี่ และผู้โดยสารที่ใช้บริการต่อไป ซึ่งช่วงต้นเดือน ต.ค.นี้ ขบ. จะเรียกคณะทำงานบริหารร่วม 4 สมาคมเข้าไปหารือเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อให้ได้ข้อสรุปการปรับขึ้นค่าโดยสารต่อไป
“การเข้าพบ ขบ. ครั้งนี้ คณะทำงานบริหารร่วม 4 สมาคมยืนยันว่า ต้องมีการปรับขึ้นค่าแท็กซี่ เพราะจากข้อมูลที่ ขบ. ได้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชน เช่น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ส่วนมากเห็นด้วยกับการปรับขึ้นค่าโดยสาร เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราค่าครองชีพที่เปลี่ยนแปลง ขณะเดียวกันมีบางกลุ่มระบุว่า ถ้ามีการปรับขึ้นค่าโดยสารต้องพัฒนาบริการให้ดีขึ้นนั้น ในส่วนนี้ ขบ. ต้องให้การสนับสนุนการอบรมการให้บริการที่ดีกับผู้ขับรถแท็กซี่ เพื่อเกิดการพัฒนาและยกระดับบริการแท็กซี่ให้ดีต่อไป” นายศดิศกล่าว